
"กษัตริย์ชุดขาว" เรอัล มาดริด กระเด็นไม่เข้ารอบเป็นที่เป็นระเบียบข้างหลังถูก เรอัล โซเซียดาด บุกมาเชือดชัยสุดมัน 4-3 โดยเกมนี้ อเล็กซานเดอร์ ไอซัค ดาวยิงกลุ่มเยี่ยมเพลงหน้าแข้งสุดแจ่มซัดผู้เดียวสองตุง ในศึกบอล โกขว้าง เดล เรย์ ประเทศสเปน (รอบ 8 กลุ่มท้ายที่สุด) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 เดือนกุมภาพันธ์ ก่อนหน้าที่ผ่านมา
บอล โกขว้าง เดล เรย์ ประเทศสเปน
(รอบ 8 กลุ่มท้ายที่สุด)
วันพฤหัสบดีที่ 6 เดือนกุมภาพันธ์ 2563
เรอัล มาดริด (ลา ลีกา) 3 - 4 เรอัล โซเซียดาด (ลา ลีกา)
สนาม : ซานติเตียนอาโก้ เบร์ท้องนาเบว
เริ่มเกมมาถึงนาทีที่ 10 เรอัล มาดริด ได้ลุ้นบวกสกอร์แรกเมื่อ ติดอยู่ขอบ เบนเซม่า หลุดผู้เดียวเข้าไปซัดทางฝั่งขวาแต่ว่าไม่ผ่าน อเล็กซ์ เรมิโร่ นายด่านกลุ่มเยี่ยมที่ปิดมุมก้าวหน้าปกป้องด้วยเท้าออกไปได้อย่างเฉียดฉิว
นาทีที่ 15 โซเซียดาด ตอบโต้กลับขึ้นมาบ้างแล้วก็ได้ช่องจบสกอร์จาก อั๊ดนาน ยานาไซ ที่ได้กดด้วยเท้าขวาทางฝั่งขวาแต่ว่าไม่ผ่านผู้เล่นเจ้าถิ่นที่ล้มตัวตัดบอลออกข้างหลังไปได้
นาทีที่ 20 เรอัล มาดริด ได้ฟรีคิกระยะราวๆ 25 หลากลางกรอบเขตเป็น ฮาเมส โรดริเกซ ที่รับหน้าที่ฆ่าโดยเจ้าตัววิ่งเข้ามาปั่นบอลด้วยเท้าซ้ายแต่ว่าโดนไม่ดีบอลบินผ่านคานออกไปไกล
นาทีที่ 22 เปลี่ยนเป็นกลุ่มเยี่ยมที่ออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะตั้งป้อมหวดเต็มข้อของ อเล็กซานเดอร์ ไอซัค รอบๆมุมกรอบจุดโทษฝั่งขวาบอลพุ่งแรงม้วนเข้าพบมุมเสา อัลฟงส์ อเรโอล่า ผู้เฝ้าประตูชุดขาวพุ่งหมดตัวปัดไว้ได้แม้กระนั้นบอลไม่เป็นใจเด้งไปเข้าทาง มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ยืนอยู่ตรงเส้นกรอบจุดโทษพอดิบพอดีเจ้าตัวไม่คอยช้าแปซ้ำฤษีองบประมาณอลราวกับจะไปสะกิดปลายตีน เอแดร์ ไม่ลิเตา กองหลังมาดริดที่อุตสาหะกระโจนบล็อครวมทั้งยืนบัง อเรโอล่า ทำให้นายด่านชุดขาวเสียจังหวะนำมาซึ่งการทำให้บอลรอดขา อเรโอล่า เข้าประตูไป
10 นาทีต่อมา เรอัล โซเซียดาด ได้ลุ้นอีกที อเล็กซานเดอร์ ไอซัค หลุดขึ้นไปทางฝั่งขวาก่อนโยกหลอก เซร์คิโอ รามอส แล้วหวดด้วยเท้าซ้ายแม้กระนั้นโดนไม่ดีบอลเข้าข้างประตู
นาทีที่ 36 กษัตริย์ชุดขาว เกือบจะได้ประตูตีเสมอจากจังหวะเพิ่มเติมเกมรุกขึ้นมาของ มาร์เซโล่ แล้วเปิดถัดมาให้ ฮาเมส โรดริเกซ ที่วิ่งเข้ามากดเต็มๆด้วยเท้าขวาตรงเส้นกรอบจุดโทษ 18 หลา บอลพุ่งแรงทำท่าจะแทงโคนเสาแม้กระนั้นยังไม่ผ่านมือ อเล็กซ์เรมิโร่ ที่ลอยตัวปัดไว้ได้ด้วยปลายนิ้ว
สามนาทีถัดมา มาดริด ยังคงเปิดเกมบุกอย่างสม่ำเสมอ วินิสิอุส จูเนียร์ ได้ตั้งป้องซัดย้ำๆนอกกรอบแม้กระนั้นก็ยังไม่ผ่านมือ เรมิโร่ ที่กระโจนปัดไว้ได้อีกรอบ
นาทีที่ 44 อเล็กซานเดอร์ ไอซัค ดาวยิงกลุ่มเยี่ยมได้ตั้งป้อมยิงย้ำๆกึ่งกลางกรอบจุดโทษมาดริดแม้กระนั้นกดไม่ลงบอลเหาะผ่านคานออกไปอย่างโชคร้าย
นาทีต่อมายังคงเป็น เรอัล โซเซียดาด ได้ลุ้นอีกรอบโดย อเล็กซานเดอร์ ไอซัค ที่ฉุดกระชากบอลหนีแผงข้างหลังมาดริดขึ้นไปทางฝั่งขวาแล้วได้จบด้วยการยิงแต่ว่าก็ยังกดบอลไม่ลงหลุดออกกรอบไปไกล
จบครึ่งแรกเป็นกลุ่มเยี่ยม เรอัล โซเซียดาด บุกมานำ เรอัล มาดริด 1-0
มาต่อช่วงหลัง นาทีที่ 49 วีเออาร์ได้ปฏิบัติงานหนแรกของเกมเมื่อ มาร์ติน โอเดการ์ด ลำแข้งโซเซียดาดผ่านบอลทะลุแผงข้างหลังให้ อเล็กซานเดอร์ ไอซัค หลุดผู้เดียวเข้าไปแปบอลหนีมือ อัลฟงส์ อเรโอล่า นายด่านพระราชาเข้าไปกองตูดตาข่ายแม้กระนั้นมีสัญญาณส่งมาจากห้องควบคุมวีเออาร์ว่า ไอซัค ยืนในตำแหน่งสู้หน้าผู้ตัดสินก็เลยเปลี่ยนวลีวินิจฉัยให้เจ้าของบ้านได้เตะลูกฟรีคิกกลับขึ้นมา
แม้กระนั้นแล้ว นาทีที่ 54 เรอัล โซเซียดาด ขยับนำห่างเป็น 2-0 จนได้จากจังหวะหลุดขึ้นไปเปิดบอลสุดขอบเส้นฝั่งซ้ายของ อันเดร์ บาร์เรเนตเชีย บอลลอยโด่งย้อนมาเข้าทาง อเล็กซานเดอร์ ไอซัค ที่เอียงตัววอลเล่ย์ด้วยเท้าซ้ายโดยทันทีบอลพรุ่งทิ่มเสยมุมบนเข้าไปอย่างสุดงามทำเอา อัลฟงส์ อเรโอล่า ที่ขยับไปอีกทางได้แม้กระนั้นยืนมองดูด้วยสายตาแค่นั้น
สองนาทีต่อมากลุ่มเยี่ยมดูราวกับว่าเหิมใจทำแต้มนำห่างอีกทีเป็น 3-0 จากเจ้าเดิมเจ้าเดิม อเล็กซานเดอร์ ไอซัค ได้ตั้งป้อมกดเต็มข้อในกรอบจุดโทษทางฝั่งขวาบอลพุ่งราวกับจรวดแทรกเสาเข้าไปแบบสุดมัน นับเป็นประตูลำดับที่สองของ ไอซัค ในเกมนี้อีกด้วย
เรอัล มาดริด มาได้ประตูไล่หลัง 1-3 นาทีที่ 59 บราฮิม ดิอาซ ผ่านบอลกึ่งกลางกรอบจุดโทษไปทางฝั่งซ้ายให้ มาร์เซโล่ ที่เพิ่มขึ้นมาก่อนเจ้าตัวรับบอลแล้วกดเลียดด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งแทรกโคนเสาแรกเข้าไปไม่เหลือ
ล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 69 เรอัล โซเซียดาด ทิ้งห่างเป็น 4-1 โดย อเล็กซานเดอร์ ไอซัค พาบอลขึ้นไปทางฝั่งขวาก่อนเปิดเลียดยัดไปในจุดโทษที่จุดสำหรับนัดพบให้ ไม่เคล เมริโน่ ที่ยืนคอยแปเน้นย้ำๆกึ่งกลางประตูไม่ถึง 10 หลาเข้าไปอย่างสบาย
นาทีที่ 76 เรอัล มาดริด อุตสาหะโหมเกมบุกหวังทวงประตูคืนบ้างแล้วก็เป็น ค้างขอบ เบนเซม่า ที่แทรกเอาชนะแผงข้างหลังกลุ่มเยี่ยมได้ขึ้นกระแทกแต่ว่าบังคับแนวทางไม่ดีบอลหลุดออกข้างประตูไป
นาทีที่ 79 กษัตริย์ชุดขาวพลาดได้ประตูติดตามขึ้นมาอีกลูกเมื่อ วินิสิอุส จูเนียร์ จ่ายบอลเข้าไปกองตูดตาข่ายกลุ่มเยี่ยมก่อนเขี่ยลูกเริ่มเล่นมีสัญญาณส่งมาจากห้องควบคุมวีเออาร์ว่า วินิสิอุส จูเนียร์ ล้ำหน้าก่อนทำประตูทำให้ผู้ตัดสินไม่ยอมรับการได้ประตูลำดับที่สองของเจ้าของบ้าน
สองนาทีถัดมา เรอัล มาดริด มาได้ประตูไล่หลังเป็น 2-4 จนได้จากจังหวะพาบอลหนีแผงข้างหลังของ วินิสิอุส จูเนียร์ ทางฝั่งขวาก่อนเปิดบอลย้อนไปในจุดโทษให้ โรดรีหรูหรา ที่ยืนรอคอยแปบอลโล่งเตียนๆกระเด้งผ่านผู้เล่นกลุ่มเยี่ยมที่มานะล้มตัวปกป้องเข้าไปได้ แต่ว่าก็ไม่วายจะมีการตรวจดูความแจ่มกระจ่างจากห้องควบคุมวีเออาร์ที่ส่งมาถึงผู้ตัดสินก่อนเริ่มเกมอีกรอบ แต่ว่าคราวนี้ไม่คือปัญหาผู้ตัดสินให้ได้ประตูรวมทั้งเป่าให้เป็นลูกเริ่มเล่นที่จุดกึ่งกลางสนาม
นาทีที่ 85 มาดริด ยังพับสนามบุกตลอด เบนเซม่า ได้โหม่งย้อนสุดเส้นข้างหลังทางฝั่งซ้ายส่งต่อไปให้ เซร์คิโอ รามอส ที่เพิ่มเติมขึ้นมาได้กระแทกเต็มๆแต่ว่าเจ้าตัวราวกับจะโหนโหม่งทำให้กดบอลไม่ลงเหาะผ่านคานออกไปอย่างโชคร้าย
นาทีที่ 90+3 เรอัล มาดริด ได้ประตูตีตื้นมาเป็น 3-4 จากการซัดกึ่งกลางกรอบจุดโทษของ เซร์คิโอ รามอส ในจังหวะแรกไปติดเซฟ อเล็กซ์ เรมิโร่ ที่พุ่งปัดออกมาได้แต่ว่ายังไม่พ้นเขตอันตรายบอลไปเข้าทาง ติดอยู่ขอบ เบนเซม่า เจ้าตัวไม่รอคอยช้าหมุนเปิดบอลลอยโด่งไปเข้าหัว ที่นาโช่ เฟร์นานเดซ ที่ขึ้นกระแทกเต็มๆแบบไม่มีตัวเกาะติดเข้าไปทำเอาตาข่ายสะเทือน
นาทีที่ 90+5 กลุ่มเยี่ยมเหลือผู้เล่น 10 คน อันโดนี่ โกโรซาเบล ถูกใบเหลืองลำดับที่สองแปลงเป็นใบแดง
นาทีที่ 90+6 เจ้าของบ้านหวุดหวิดตีเสมอได้เสร็จเมื่อ มาร์เซโล่ เปิดบอลจากทางฝั่งขวาไปให้ รามอส ที่เพิ่มขึ้นมาลอยตัวชนเตียนๆแต่ว่าดันไปตรงตัว เรมิโร่ รับเข้าซองไว้ได้ แล้วก็โน่นเป็นจังหวะในที่สุดของเกม
จบเกม เรอัล โซเซียดาด บุกมาเชือด เรอัล มาดริด เจ้าของบ้านไปแบบสุดมัน 4-3 ทำให้ โซเซียดาด ผ่านไปสู่รอบรองชนะเลิศ หรือ 4 กลุ่มท้ายที่สุดถัดไป ช่วงเวลาที่ กษัตริย์ชุดขาวจะต้องน้ำตาตกในหล่นไม่เข้ารอบ
รายนามผู้เล่นทั้งคู่กลุ่ม
เรอัล มาดริด (4-3-3) : อัลฟงส์ อเรโอล่า - เซร์คิโอ รามอส, เอแดร์ ไม่ลิเตา, ทุ่งนาโช่ เฟร์นานเดซ, มาร์เซโล่ - โทนี่ วัวรส, เฟเดริเก๋ วัลเวร์เด้ (ลูก้า โยวิช น.76), ฮาเมส โรดริเกซ (ลูก้า โมดริช น.46) - วินิสิอุส จูเนียร์, บราฮิม ดิอาซ (โรดรีเก๋ น.76), ค้างขอบ เบนเซม่า
เทรนเนอร์ : ซีเนดีน ซีดาน
เรอัล โซเซียดาด (4-5-1) : อเล็กซ์ เรมิโร่ - อาริตซ์ เอลูสตอนโด้, โรบิน เลอ นอร์กม็องด์, อันโดนี่ โกโรซาเบล, ท้องนาโช่ มอนเรอัล - อิกอร์ ซูเบลเดีย, มาร์ติน โอเดการ์ด (อันเดร์ กูบาร่า น.64), ไม่เคล เมริโน่, อั๊ดนาน ยานาไซ (อันเดร์ บาร์เรเนตเชีย น.46), ไม่เกล โอยาร์ซาบัล - อเล็กซานเดอร์ ไอซัค (ไอเอน มูนญอซ น.70)
เทรนเนอร์ : อิมาโนล อัลกัวสิล
|